บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) โชว์ฟอร์มกำไรสุทธิไตรมาส 1/2566  แตะ 78.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 5.22% ส่วนรายได้ 300.17 ล้านบาท  เนื่องจากยอดผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) เข้ารับบริการศูนย์บริการทางการแพทย์ล้นทะลัก อีกทั้งทยอยรับรู้รายได้และกำไรจากโรงพยาบาลคูน รวมถึงรับรู้ผลการลงทุน KLINIQ  ฟากผู้บริหาร “นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร” ระบุจากแผนการขยายการลงทุนในด้านสุขภาพ รวมถึงยกระดับให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางมากขึ้น ทำให้มั่นใจหนุนภาพรวมธุรกิจติดปีกแข็งแกร่ง ผลักดันรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%

นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด(มหาชน) หรือ EKH ผู้ประกอบธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2566  (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ) มีกำไรสุทธิ  78.34 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 3.89 ล้านบาท หรือ 5.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 74.45 ล้านบาท  ขณะที่รายได้รวมเท่ากับ300.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.30 ล้านบาท หรือ 8.03 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 277.87 ล้านบาท

สาเหตุที่รายได้และกำไรของบริษัทและบริษัทย่อยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีรายได้จากโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD)  และผู้ป่วยใน (IPD) เข้ารับการรักษาตามศูนย์บริการทางการแพทย์ที่รักษาโรคเฉพาะทางต่าง ๆ  และรับรู้รายได้จากการลงทุนในคลินิกเสริมความงาม บริษัทเดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน)  หรือ KLINIQ  รวมถึงโรงพยาบาลคูน ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาช่วยสนับสนุนรายได้เพิ่มขึ้น  

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้และกำไรเติบโตเพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ป่วยโควิดในไตรมาสแรกจะลดลง แต่ผู้ป่วยจากโรคทั่วไปเพิ่มมากขึ้นซึ่งถือว่ากลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้เชื่อว่าภาพรวมทั้งปีจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากจำนวนผู้ป่วย OPD  และผู้ป่วย IPD ที่เข้ามารับการรักษาตามศูนย์บริการทางการแพทย์ที่รักษาโรคเฉพาะทางต่าง ๆ รวมถึงทยอยรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลคูน ขณะที่ศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) คาดว่าลูกค้าชาวจีนจะเข้ามาใช้บริการช่วงกลางปีนี้ทำให้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้การเติบโตของรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้น” นายแพทย์อำนาจกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะขยายส่วนงานด้านสุขภาพต่างๆ รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสามารถรองรับการเข้าใช้บริการของประชาชนได้ทั่วถึง ซึ่งตามแผน คือขยายศูนย์ไตเทียมเพิ่มอีก 14 เตียง รวมเป็น 24 เตียง รวมถึงมีแผนขยายเตียงเพิ่มจากเดิม 142 เตียงเป็น200 เตียง และออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพภายใต้แบรนด์ของโรงพยาบาลเอกชัย เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้  เพื่อผลักดันให้รายได้ปี 2566 เติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 10%